สมองหายล้า ชีวิตก็หายเหนื่อย! หนังสือดีแนะนำให้ลองอ่าน
สมองจัดเป็นอวัยวะสำคัญส่วนหนึ่งของร่างกายที่คนเราต้องใช้งานเป็นประจำทุกวันอาจบอกได้ว่าทุกวินาทีคงไม่ผิดด้วยซ้ำ ไม่แปลกที่เราจะรู้สึกว่าสมองของเรานั้นช่างเหนื่อยล้าเสียเหลือเกินจนบางทีก็ต้องการมองหาช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนเพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่สมองล้าร่างกายของเรามันก็รู้สึกล้าตามไปด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้จึงได้มีนักเขียนชาวเกาหลีท่านหนึ่งเขียนหนังสือที่แปลเป็นไทยว่า สมองหายล้า ชีวิตก็หายเหนื่อย ขึ้นมา เรียกว่าตอบโจทย์ผู้ที่กำลังต้องการในสิ่งเหล่านี้ได้ดีมากเลยทีเดียว
หนังสือดี ๆ ที่จะช่วยให้สมองได้พักกับ สมองหายล้า ชีวิตก็หายเหนื่อย
ด้วยคอนเซปต์ของหนังสือเล่มนี้คือต้องการให้ผู้อ่านทุกท่านได้บำรุงสมองพร้อมทั้งยังช่วยเป็นแรงบันดาลใจชั้นดีกับคนที่กำลังหมดแรงจากการทำงานด้วยชีวิตอันแสนน่าเบื่อ ขาดเป้าหมาย ไร้ความทะเยอะทะยาน ไม่เคยทำอะไรได้สำเร็จดังใจปรารถนา สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมานี้ในหนังสือมองว่าเพราะสมองของเราเหนื่อยล้าเกินไป
สมองหายล้า ชีวิตก็หายเหนื่อย! เป็นหนังสือที่ถูกเขียนขึ้นโดย Lee Si Hyung บุคคลผู้นี้ทำอาชีพเป็นนักจิตแพทย์ชาวเกาหลีในวัย 80 ปี แต่ยังคงมีความแข็งแรงทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต แม้อายุเยอะแต่เขายังสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพถึงวันละ 15 ชม. แบบไม่รู้สึกเหนื่อยล้าใด ๆ เขามักอ่านหนังสือให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 เล่ม อีกทั้งยังเป็นนักเขียนหนังสือมากว่า 73 เล่มก่อนหน้านี้ด้วย เคล็ดไม่ลับของนักเขียนท่านนี้เกิดจากเขาคือบุคคลผู้มีความช่ำชองเรื่องของสมองล้า มีวิธีถูกต้องสำหรับการป้องกันพร้อมทั้งการบำบัดเมื่อตกในสภาวะที่พูดถึง เมื่อเป็นเช่นนี้ สมองหายล้า ชีวิตก็หายเหนื่อย! จึงเป็นหนังสือที่บอกเล่าถึงสาเหตุที่ทำให้สมองของคนเราเกิดอาการล้าแบบละเอียดยิบ มีแนวทางปฏิบัติเพื่อการแก้ไขพร้อมวิธีใช้ชีวิตเพื่อให้ทุก ๆ คน กลายเป็นมนุษย์พลังสมองได้
หากคุณคือผู้หนึ่งที่กำลังเจอกับปัญหาเครียด ปวดหัว สุขภาพก็ไม่ดี แถมยังทำงานอย่างหนักหน่วง นี่คือบุคคลที่ต้องรีบหาหนังสือเล่มนี้มาอ่านให้เร็วที่สุด เพียงแค่เริ่มต้นเปิดตั้งแต่หน้าแรกตัวหนังสือต่าง ๆ จะช่วยเพิ่มแรงบันดาลใจและช่วยลดความล้าของสมองได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมที่จะสู้กับการทำงานแบบไม่มีคำว่าเหนื่อย คิดดูว่าขนาดบรรดาผู้ที่เป็นคนใหญ่คนโตในเกาหลีทุก ๆ วงการยังต้องอ่านแล้วเราคนธรรมดาไม่รีบหยิบมาอ่านคงจะพลาดน่าดู รับรองว่าหนังสือเล่มนี้จะช่วยสร้างอะไรให้กับชีวิตได้อีกเยอะมากทีเดียว